น้องชิ
ชิวาวา (Chihuahua) จัดได้ว่าเป็นสุนัขพันธุ์ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก และในปัจจุบันสุนัขพันธุ์ชิวาวากำลังเป็นที่นิยมกันมากของเหล่าผู้ที่รัก สุนัข เนื่องด้วยขนาดตัวของมัน อุปนิสัยผู้คนส่วนใหญ่จึงนิยมนำเจ้าชิวาวามาเลี้ยง
น้องชิ หรือว่า ชิวาวา จัดอยู่ในประเภท Toy ส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้านและนิยมนำสุนัขชิวาวามาประกวดในด้านความ สวยงาม โดยธรรมชาติของมันแล้ว เจ้าชิวาวามักเป็นสุนัขที่เงียบ มีความจงรักภักดีต่อเจ้าของ และมันจะมีอัธยาศัยที่ดีกับสุนัขตัวอื่นๆในบ้าน รวมแม้กระทั่งแมวหรือนกด้วย ยกเว้นเมื่อมันถูกรบกวนหรือทำให้มันตกใจ มันจะเห่า สุนัขพันธุ์ชิวาวาถือเป็นสุนัขที่แกร่งและมีอายุที่ยืนยาว
น้องชิในปัจจุบันมีทั้งหมด 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์ขนสั้นและพันธุ์ขนยาว ชิวาวาพันธุ์ขนสั้น(ขนเกรียน) เหมาะสำหรับบุคคลที่แพ้ขนสุนัข ส่วนชิวาวาพันธุ์ขนยาว จะมีลักษณะมีขนเป็นฝอยๆ ตามหูและขา ขนตามลำตัวจะอ่อนนุ่มเป็นมัน หางมีลักษณะเป็นพู่ ทั้ง 2 สายพันธุ์นั้นต่างก็มีอุปนิสัยตรงกัน มีความว่องไว กะทัดรัด ปราดเปรียว ร่าเริง เฉลียวฉลาดมาก ฝึกสอนง่าย สมเหมาะสำหรับที่จะนำมาเลี้ยงในบ้านที่มีเนื้อที่จำกัดโดยเฉพาะบ้านในเมือง ใหญ่ๆ
ลักษณะน้องชิ
ลักษณะทั่วไป : ชิวาวาเป็นสุนัขขนาดเล็กที่มีความฉลาดและจงรักภักดีต่อเจ้าของมาก มีทั้งพันธุ์สั้นและขนยาว ชิวาวาพันธุ์ขนสั้นมีต้นกำเนิดมาจากสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิม ส่วนสายพันธุ์ขนยาวเพิ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาภายหลัง ชิวาวาเป็นสุนัขที่มีโครงสร้างกระชับสมสัดส่วน ดูสง่างาม คล่องแคล่วว่องไวและตื่นตัวตลอดเวลา กะโหลกมีลักษณะกลม ความยาวลำตัวมากกว่าความสูงเล็กน้อย จมูกและปากสั้น ปลายจมูกค่อนข้างแหลม จมูกมีสีเข้มเข้ากับขนลำตัว ใบหูมีขนาดใหญ่ปลายหูค่อนข้างแหลมตั้งขึ้น ตาโตแต่ไม่ยื่นโปนออกมา นัยน์ตามีสีดำสนิท
นิสัย : ชิวาวาเป็นสุนัขมีความฉลาดและจงรักภักดีต่อเจ้าของมา กเมื่อเทียบกับสุนัขพันธุ์อื่นๆ โดยปกติมักเป็นสุนัขที่เงียบสงบไม่ค่อยเห่าส่งเสียงร บกวน เว้นแต่จะถูกรบกวนหรือทำตกใจจึงจะเห่าเพื่อรักษาที่อ ยู่อาศัยของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีนิสัยกล้าหาญมักจะยืนหยัดต่อสู้กับสุนัขตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กกว่า แต่ก็มีอัธยาศัยที่ดีกับสุนัขตัวอื่นหรือสัตว์เลี้ยง ชนิดอื่นๆ
ขนาด :
- ความสูง 16-20 (เซนติเมตร)
- น้ำหนักตัว 2.5-2.7 (กิโลกรัม)
ขน :- ความสูง 16-20 (เซนติเมตร)
- น้ำหนักตัว 2.5-2.7 (กิโลกรัม)
- ชิวาวาพันธุ์ขนสั้น เส้นขนควรมีลักษณะอ่อนนุ่มและแนบติดกับลำตัวขนเป็นมั นแวววาว หากชิวาวาตัวโต จะมีขนขึ้นดกหนากว่าปกติ เพราะมีขนชั้นในด้วยไม่ถือว่าผิดมาตรฐาน
โดยปกติขนที่บริเวณลำตัวและคอ จะขึ้นหนาแน่นกว่าขนตามส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ส่วนขนที่บริเวณศีรษะและใบหูจะบางกว่าส่วนอื่น
- ชิวาวาพันธุ์ขนยาว เส้นขนควรมีลักษณะอ่อนนุ่ม ขนเหยียดตรง หรือเป็นลอนเล็กน้อย แต่ห้ามหยิก ขนชั้นในจะมีหรือไม่มีก็ได้ ขนที่บริเวณใบหูจะต้องยาว แต่ถ้าขนยาวและดกมากหนาเกินไปจนห้อยปรกลงมาครอบใบหู ควรตัดเล็มออก
สำหรับขนที่บริเวณขาอุ้งเท้า และบริเวณด้านหลังของสะโพกควรมีเส้นเล็กบาง ส่วนขนที่บริเวณลำคอและหางควรมีลักษณยาวและฟู
สี : ของขนที่บริเวณหางควร มีสีกลมกลืนกับสีของขนบนตัว
- สำหรับชิวาวาขนสั้น ขนที่บริเวณหางควรมีลักษณะยาวและอ่อนนุ่มกว่าขนบนตัว
- ส่วนชิวาวาพันธุ์ขนยาว ขนที่บริเวณหางควรมีลักษณะยาวและอ่อนนุ่ม
ศีรษะ : กะโหลกศีรษะควรกลมคล้ายผลแอปเปิ้ลตั้งกลับหัว ผิวหนังตรงบริเวณกรามและแก้ม ควรตอบแนบติดกับกระดูก
หู : ใบหูควรมีขนาดใหญ่ ปลายหูค่อยข้างแหลม ในยามที่สุนัขเกิดความตื่นตัวหรือกำลังให้ความสนใจกั บสิ่งหนึ่งสิ่งใด ใบหูควรตั้งชัน แต่ในยามปกติใบหูทั้ง 2 ข้างควรตั้งถ่างออกจากกันโดยฐานใบหูทำมุมเฉียง 45 องศา กับกะโหลกศีรษะ สำหรับชิวาวาพันธุ์ขนยาว บริเวณหลังใบหูควรมีขนยาว ปกคลุมถ้าหากขนขึ้นที่ใบหูดกหนามากเกินไปอาจเล็มแต่เ พื่อความสวยงามไดแต่ถ้าใบหูห้อยปรกลงมาถือว่าบกพร่อง
ตา : ตา โตแต่ไม่ควรยื่นโปนออกมามาก ตาทั้ง 2 ข้างควรมีขนาดเท่าๆกัน และตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ห่างจากกันในระดับพอเหมาะ นัยน์ตาควรมีสีดำสนิทส่องประกายแวววาว แต่สำหรับชิวาวาที่มีขนสีครีมออกเหลือง หากนัยน์ตามีสีจางอนุโลมได้ จมูก จมูกปากควรสั้น ปลายจมูกปากค่อนข้างกลม สีของจมูกควรมีสีเข้ากับสีของขนบนลำตัว สำหรับชิวาวาที่มีขนสีครีมออกเหลือง หากจมูกมีสีชมพูถือว่าพออนุโลมได้ซึ่งจุดนี้จะแตกต่า งจากสุนัขพันธุ์อื่นๆ เพราะโดยส่วนใหญ่ หากสุนัขมีจมูกสีชมพู ถือว่าเป็นข้อบกพร่องร้ายแรงมาก
ฟัน : ฟันหน้าควรขนกันได้สนิทเหมือนกรรไกร โดยฟันบนเกยอยู่ด้านนอก แต่ถ้าฟันแถวล่างเกยอยู่ด้านนอก หรือฟันบนขบเกยอยู่ด้านนอก แต่ขบฟันล่างไม่สนิทหรือฟันขาด หรือฟันขึ้นไม่เป็นระเบียบล้วน ถือเป็นข้อบกพร่องร้ายแรงทั้งสิ้น
คอและหัวไหล่ : ลำคอควรมีลักษณะเป็นเส้นโค้งสวยงาม ลาดเทเข้าหาหัวไหล่เล็กน้อย สำหรับชิวาวาพันธุ์ขนสั้น ความสวยงามของลำคอถือเป็นเรื่องสำคัญมากเนื่องจากมอง เห็นได้อย่างชัดเจน เพราะไม่มีขนมาบดบัง ส่วนชิวาวาพันธุ์ขนยาว ขนที่บริเวณลำคอควรยาวแต่ไม่ถึงกับยาวและดกหนามาก หัวไหล่ที่ดีควรมีลักษณะราบเรียบและค่อยๆขยายออกกว้า ง รับกับขาหน้าทั้ง 2 ข้าง กระดูกหัวไหล่ควรลาดเทลงหาแผ่นหลัง
อก : ควรลึก และกว้าง แต่ไม่ต้องถึงกับเท่าพันธุ์บลูด็อก แผ่นหลังและลำตัวแผ่นหลัง ควรมีลักษณะเป็นเส้นตรงขนานกับพื้น ความยาวของลำตัวมีมากกว่าความสูงเล็กน้อย โดยปกติชิวาวาเพศผู้จะมีลำตัวที่สั้นกว่าเพศเมีย โครงสร้างลำตัวมีลักษณะค่อนข้างกลม ไม่แบน แต่ก็ไม่ถึงกลมเหมือนถังเบียร์
ลำตัว : ครึ่งท่อนหลังจะต้องเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ ข้อศอกขาหลังเวลายืนตั้งอยู่ห่างจากกันในระดับพอเหมา ะ ข้อศอกไม่ควรบิดเข้าหากัน เวลาที่สุนัขเดินหรือวิ่งแลดูแข็งแรง เท้าไม่ปัด
หาง : ต้อง ยาวพอเหมาะ หางควรตั้งและมีลักษณะโค้งคล้ายหางของสุนัขไทยหางดาบ ในกรณีที่สุนัขมีหางม้วน อนุโลมให้ปลายหางม้วนแตะแผ่นหลังได้ แต่ห้ามเลยระดับแผ่นหลังลงมา
ขาและเท้า : ขาควรเหยียดตรงและตั้งขนานกัน อุ้งเท้าควรมีขนาดเล็ก นิ้วเท้าแยกออกจากกัน แต่ไม่ถึงกับกางแบะออกเหมือนตีนเป็ด อุ้งเท้าคล้ายกับอุ้งเท้าของสุนัขพันธุ์บลูด็อก ซึ่งจะแตกต่างจากอุ้งเท้าของสุนัขพันธุ์อื่นๆ ซึ่งโดยมากมีอุ้งเท้ากระชับ
สี : สีขนอาจมีได้หลายสี ไม่มีข้อจำกัด อาจเป็นสีเดียวกันทั้งตัวหรืออาจมีมาร์คกิ้งหรือสีด่ างก็ได้ สีขนมีได้ไม่จำกัด อาจเป็นสีเดียวทั้งตัวหรือมี มาร์คกิ้งหรือมีสีต่างๆก็ได้
การดูแลสุขภาพทั่วไปน้องชิ
การดูแลสุขภาพทั่วไปของน้องชิ ผู้เลี้ยงควรดูแลสุขภาพของน้องชิอย่างสม่ำเสมอทุกๆ วันโดยเราสามารถตรวจสอบร่างกายน้องชิโดยดูจากอวัยวะส่วนๆ ต่างเช่น
ตา
จมูก
ปาก
ทวารหนัก
ทวารหนัก :: ส่วนสุดท้ายของทางเดินอาหารเรียกว่า ลำไส้ใหญ่ รูเปิดจากลำไส้ใหญ่ถึงภายนอกร่างกายเรียกว่า ทวารหนัก ทั้งสองด้านของลำไส้ใหญ่ใกล้ทวารหนักมีต่อมเล็กๆ ต่อมนี้จะมีอาการเจ็บป่วยบ่อยๆ ให้เราลองสังเกตผิวหนังรอบๆ ทวารหนักว่ามีอาการบวมแดงหรือไม่ น้องชิที่กัดบริเวณนี้มากกว่าปกติ หรืออาจเอาก้นไปถูกับพื้นบ่อยๆ ควรพาน้องชิไปพบหมอ
น้องชิพุงยิ้ม
การเลือกอาหารให้กับน้องชิ
ก่อนอื่นให้คุณตรวจสอบรายการคุณค่าทางโภชนาการเช่น อาหารสำหรับลูกสุนัขและสุนัขตั้งครรภ์ หรืออาหารสำหรับสุนัขโตเต็มวัย หลังจากเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะกับน้องชิของคุณแล้ว ให้คุณตรวจสอบรายการส่วนประกอบว่ามีอะไรบ้าง สำหรับอาหารกระป๋องเกือบทั้งหมดจะระบุเนื้อสัตว์เป็นอับดับหนึ่ง ส่วนอาหารเม็ดจะระบุเนื้อสัตว์เป็นอับดับรองลงมา เหตุผลเพราะเนื้อสัตว์ในอาหารกระป๋องจะถูกสกัดน้ำออกจึงทำให้มีน้ำหนักมาก ในส่วนของอาหารเม็ด อาจมีเนื้อสัตว์ในปริมาณเท่าๆกัน จะถูกระบุในลำดับถัดมาเนื่องจากมีน้ำน้อยกว่า
สรุปแล้วการเลือกอาหารให้น้องชิของเรา เราควรเลือกให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาครบถ้วน เพราะถ้าหากน้องชิของเราไม่ได้รับคุณค่าทางสารอาหารที่ครบถ้วน อาจจะทำให้น้องชิของเราเป็นโรคกระดูกอ่อน ขนร่วง ฟันงอกช้าและหลุดได้ หรือการเติบโตไม่ได้สัดส่วนตามลักษณะสายพันธุ์ค่ะ
การเปลี่ยนอาหารให้กับน้องชิ
การเปลี่ยนอาหารสุนัขแบบกะทันหันอาจจะทำให้น้องชิของเราปวดท้องและท้อง เสียได้ค่ะ ขอแนะนำสำหรับผู้ที่จะกำลังคิดจะเปลี่ยนอาหารให้น้องชิแนะนำให้คุณค่อยๆ เปลี่ยนอาหารทีละน้อยๆ โดยเริ่มจากผสมอาการตัวเดิม 3 ส่วนกับอาหารตัวใหม่ 1 ส่วนในวันแรก ก่อนจะผสมอย่างละครึ่งในวันต่อมา ส่วนในวันที่ 3 ให้คุณผสมอาหารใหม่ 3 ส่วนกับอาหารเก่า 1 ส่วน และในวันที่ 4 ค่อยให้อาหารใหม่กับน้องชิได้เลยค่ะ
สารอาหารหลักที่จำเป็นสำหรับน้องชิ
- โปรตีน มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโต ซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ทำให้ขนงอก เราสามารถพบได้ในเนื้อสัตว์ เนื้อปลาค่ะ
- คาร์โบไฮเดรต ช่วยเสริมพลังในการทำกิจกรรมต่างๆ สำหรับสุนัข ซึ่งเราสามารถพบได้ในน้ำตาล แป้ง และข้าวต่างๆ
- ไขมัน ช่วยให้พลังงานเพื่อการเจริฐเติบโต การต่อสู้กับความเครียด ความหนาว หากสุนัขขาดกรดไขมันจะทำให้ผิวแห้งและเจริบเติบโตช้า และถ้าขาดมากเกินไปอาจทำให้สุนัขตายได้ค่ะ
- วิตามิน ช่วยให้ร่างกายเจริบเติบโตและช่วยควบคุมกานทำงานของอวัยวะต่างๆ
วิตามิน A ช่วยในการต้านทานโรค พบในเนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง น้ำมันตับปลา
วิตามิน B ควบคุมความสมบูรณ์กับผิวหนัง ป้องกันโรคทางประสาท พบในไข่แดง นม ตับ
วิตามิน C ช่วยบำรุงรักษาผิวหนังและขนของสุนัข พบในพืชผักผลไม้
วิตามิน D ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายและกระดูก พบในน้ำมันตับปลา
วิตามิน E ช่วยในการสืบพันธุ์และการผลิตน้ำนม
อาหารเสริมของน้องชิ
สำหรับของกินเล่นของน้องชิ เราควรให้น้องชิหม่ำๆขนมได้ไปเกิน 10 เปอเซนต์ต่อจำนวนแคลอรีในแต่ละวันซึ่ง
อาหารที่เป็นประโยชน์
- ขนมสุนัขแบบแคลอรีต่ำ
- ข้าวโพดคั่ว (ไม่ผสมเนยหรือเกลือ)
- ผักบรอกโคลี
- ถั่วลันเตาสุก
- แคร็อท
- ของเหลือที่ย่อยยากที่เต็มไปด้วยไขมันต่างๆ
- กระดูก ชิ้นเล็กๆที่อาจติดคอน้องชิ หรือกระดูกชิ้นใหญ่อาจทำให้น้องชิสำลักไปจนถึงขัดขวางลำไส้หรืออาจทิ่มตำอวัยวะภายในได้ค่ะ
- อาหารแมว น้องชิของเราอาจจะกินได้ก็จริงแต่ในทางโภชนาการน้องชิของเราจะไม่ได้รับประโยชน์จากอาหารแมวเลย
- ช็อกโกแลต ตามลิงค์นี้เลยค่ะ พิษจากช๊อกโกแลต
- หัวหอม หากให้น้องชิกินมากไปจะทำให้เม็ดเลือดแดงของน้องชิต่ำจนนำไปสู่โรคโลหืตจาง
- นม สำหรับสุนัขที่โตเต็มวัย สุนัขมักจะไม่สามารถย่อยน้ำตาลแล็กโตสได้ (อธิบายในทางวิทยาศาสตร์เลยง่ะ แหะๆ – -”) เอาเป็นว่าการให้น้องชิของเราดื่มนมมากไปจะทำให้น้องชิเกิดอาการทองเสียและ ปวดท้องได้ค่ะ ซึ่งในกรณีนี้น้องชิของเราอาจจะปล่อยก๊าซออกมาด้วย!!